วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

ต้นแบบผิวหนัง Age of Ultron , ผู้กำกับหนังหนังใหม่ SPIDER-MAN

หนัง!!! อัลตรอน บุกเต็มกำลัง ดูตัวอย่างที่ 3 Avengers: Age of Ultron


หนัง


เรื่องราวความเข้มข้น ระทึกได้ใจขึ้นเรื่อยๆ กับตัวอย่างหนังใหม่ของภาพยนตร์แอ็คชั่นฮีโร่ที่ทุกคนรอคอยอย่างเรื่อง Avengers: Age of Ultron ที่ประเดี๋ยวนี้ได้ทำการ ยอมทีเซอร์ตัวอย่างตัวที่ 3 ออกมาแล้ว กับการเตรียมทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ของ อัลตรอน ตัวร้ายเบอร์ล่าสุด ที่เหล่าฮีโร่

  • ไอรอนแมน
  • กัปตันอเมริกา
  • ธอร์
  • ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์
  • แบล็ค วิโดว์
  • ฮอว์คอาย 

นั้นต้องร่วมกันยับยั้งความวินาศนี้ให้ได้




เนื่องด้วยโปรแกรมหนังเรื่อง Avengers: Age of Ultron นั้นนำแสดงโดย

  1. โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทเป็น ไอรอนแมน 
  2. คริส อีแวนส์ รับบทเป็น กัปตันอเมริกา
  3. คริส เฮมสเวิร์ธ รับบทเป็น ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า
  4. มาร์ค รัฟฟาโร่ รับบทเป็น เดอะ ฮัลค์
  5. สกาเล็ตต์ โจแฮนสัน รับบทเป็น แบล็ค วิโดว์
  6. เจเรมี่ เรนเนอร์ รับบทเป็น ฮอว์คอาย
  7. แซมมวล แอล. แจ็คสัน รับบทเป็น นิค ฟิวรี่
  8. โคบี้ สมัลเดอร์ส รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ มาเรีย ฮิลล์ 


ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันกำจัด

  1. เจมส์ สเปเดอร์ รับบทเป็น อัลตรอน





ถ้าอย่างนั้นเราลองไปดูตัวอย่างที่ 3 ของ Avengers: Age of Ultron กัน ก่อนที่จักได้ชมกันแบบเต็มๆ ใน 29 เมษายน 2558 เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป






ดูตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Age of Ultron




 มาดูผู้กำกับ SPIDER-MAN ฉบับมาร์เวลรีบูต!!




ก็คงจะพูดได้เลยว่าหนังเข้าใหม่เรื่อง สไปเดอร์แมน เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกรีบูตบ่อยที่สุดด้วยกันถี่ที่สุดตัวหนึ่งของโลกหนังเลยก็ว่าได้ ก็เพราะว่าว่าหลังจากที่ทางโซนี่พร้อมกับมาร์เวลได้เจรจากันเป็นที่เรียบร้อยลงตัวแล้ว การเอาแฟรนชายส์ไอ้แมงมุมกลับสู่บ้านเกิดของตัวเอง นั่นทำให้สตูดิโอมาร์เวลตกลงที่จักจ้างผู้กำกับหนังฝีมือดีมีสไตล์เก๋แปลกแหวกแนวอย่าง ดรูวส์ กอดดาร์ด จากหนังสยองขวัญหักมุมคนดูจนหน้าหงายอย่างเรื่อง The Cabin in the Woods มารับหน้าที่ทั้งเขียนบทพร้อมทั้งกำกับไอ้แมงมุมภาครีบูต

ภายหลังที่ ดรูวส์ กอดดาร์ด ไม่เป็นแค่เท่าตัวเร่ำลือกชั้นดีของทางสตูดิโออย่างมาร์เวลแล้ว แต่เขาเรียกได้ว่าเขามีสายสัมพันธ์พร้อมด้วยใกล้ชิดกับจักรวาลมาร์เวล ของซูเปอร์ฮีโร่เป็นอย่างมากเพราะว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับจอร์จ วีดอน มือเขียนบทให้กับเช็ครอบหนังรวมฝ่ายฮีโร่อย่าง 1.The Avengers, 2.Avengers: Age of Ultron รวมไปถึงซีรีย์มาร์เวลที่สปินออฟออกมาอย่างเรื่อง Agents of S.H.I.E.L.D. อีกด้วย

แต่ว่าอันที่แน่นอนแล้วตัวของ ดรูวส์ กอดดาร์ด นั้นเคยถูกวางตัวจากทางสตูดิโอโซนี่ ให้กำกับหนังสปินออฟจากเรื่อง The Amazing Spider Man 2 พร้อมกับเรื่อง The Sinister Six เป็นหนังรวมบรรดาวายร้ายตัวฉกาจของสไปเดอร์แมน แต่ทั้งนี้เพราะทางโซนี่ได้เซ็นข้อตกลงแชร์คาแรกเตอร์ตัวนี้กับทางมาร์เวลทำให้โครงการสร้างหนังเรื่องนี้ถูกพับเก็บขึ้นชั้นไปก่อน รอเวลาที่เหมาะอีกทีคงจักได้สร้างกัน

กับไม่แค่เท่านั้นตัว กอดดาร์ด เองก็เพิ่งจักมีโอกาสได้เขียนบทให้กับซีรีย์ซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายมาร์เวลอย่างเรื่อง Daredevil ในปีที่เปลี่ยนมาด้วยแต่เขาเขียนบทไปได้แค่สองตอน แต่เขาก็ถอนตัวออกมาเพื่อจักดูแลงานสร้างให้กับเรื่อง The Sinister Six แต่ว่าขณะโครงการถูกพับไป ซึ่งเขาก็คงหัวเสียอยู่ไม่น้อยที่ต้องทิ้งโปรเจ็คเรื่อง Daredevil มา

แต่แล้วกลายเป็นว่าส้มเลยหล่นใส่ผู้กำกับหนังคนนี้เข้าอย่างจังในการที่ มาร์เวล ได้เลือกระฉ่อนกตัวเขาให้มาดูแล Spider - Man เวอร์ชั่นรีบูตใหม่ครั้งนี้ ด้วยกันสิ่งที่น่าจับตามองถัดจากนั้นก็คือ ใครล่ะที่จักมาแสดงเป็นซูเปอร์ฮีโร่นัก ยอมใยคนต่อไป!


ที่มา: http://xn--12cmad7fk7bcnb3gc0fe3una1a6g.blogspot.com/ , http://movienew2014-2015.blogspot.com/


วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนังกงการ UNBROKEN

บทวิจารณ์หนังเรื่อง UNBROKEN


class=aligncenter


ถึงแม้ว่าหนังอย่างเรื่อง Unbroken นั้นจะตั้งใจนำเสนอวีรกรรมพร้อมด้วยความอดทนของบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในความเป็นมาศาสตร์อย่าง หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ แต่ทว่าจุดขายของโปรแกรมหนังที่แท้จริงๆคือการเอาชื่อผู้กำกับหนังหญิงอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ มาขายเป็นหลัก เสียจนเราอาจจักกล่าวได้ว่า เราแทบจะสนใจในออร่ารัศมีของตัวโจลี่ มากกว่าจะไปโฟกัสตัวหนังเสียอีกด้วยซ้ำไป


ซึ่งแน่แท้ๆ แล้วผลงานการกำกับของโจลี่ชิ้นที่ 3 นี้ถือว่าทำออกมาได้สมน้ำสมเนื้อ เพราะว่าตัวหนังมีสเกลของเรื่องที่เรียกได้ว่าใหญ่พอตัว เพราะว่าตัวหนังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องสงคราม ปรากฏมู่ลี่เครื่องบินรบ รวมไปถึงช่วงเวลาที่ตัวละครของเรื่องต้องไปลอยคออยู่กลางทะเล ก่อนที่จักโดนจับไปอยู่ในค่ายเชลยตอนท้ายเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าการคุมงานสร้างของโจลี่แม้ว่าจักออกมาน่าพอใจ แต่ครั้นเมื่อลองหันกลับมามองในเรื่องตัวบทภาพยนตร์และวิธีการเล่าเรื่องของเธอแล้วจะพบว่าตัวหนังเข้าใหม่ค่อนข้างประสบปัญหาพอสมควร


โดยที่ แจ็ค โอคอนเนล ที่เป็นนักแสดงนำของเรื่องที่รับบทเป็น หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ นั้นต้องรับหน้าที่ในการโอบอุ้มเช็ครอบหนังทั้งเรื่องไว้เลยทีเดียว ตามที่มันเล่าช่วงเวลาที่เขาต้องพยายามเอาชนะตัวเองในการวิ่งมาราธอนก่อนจักผันตัวเองไปวิ่งแข่งขันเป็นนักกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิกโลก ซึ่งหนังก็เล่าช่วงเวลานี้แบบเปลี่ยนๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก


แต่ทว่าฝันของหลุยส์ นั้นก็ต้องดับวูบหายไปครั้นเมื่อเขาต้องเข้าไปร่วมเป็นพลทหารอากาศในกองทัพสหรัฐ ระหว่างที่เขาได้รับภารกิจในการบินไปลาดตระเวนนั้นเองเครื่องของเขาก็ถูกยิงตกลงในมหาสมุทรจนต้องลอยคอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหลายอาทิตย์ ซึ่งพวกเขาก็ต้องเผชิญสภาพขาดน้ำ ขาดอาหารพร้อมทั้งโดนแสงแดดแผดเผาจนร่างกายไหม้ คล้ายๆ กับชีวิตพายใน Life of Pi แต่ที่ซวยหนักกว่าคือการที่เขาถูกกองทัพญี่ปุ่นพบพร้อมด้วยจับตัวไปเป็นเชลยสงครามในค่ายทหาร


ด้วยกัน ณ ในค่ายทหารนั้นเองหลุยส์ต้องเผชิญหน้า เดอะเบิร์ด 1.มิยาวิ, 2.ทาคามาสะ อิชิฮาระ ที่ใครๆ ก็ขนานนามว่าเขาเป็นจอมโหดแห่งค่ายเชลยสงครามที่มักจักลงมือลงไม้กับนักโทษเป็นประจำ พร้อมทั้งหลุยส์ก็ตกเป็นกระสอบทรายอยู่บ่อยครั้ง


ซึ่งสิ่งที่น่ากังขาก็คือ ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดของ เดอะเบิร์ด กับ หลุยส์ นั้น เรียกได้ว่าตัวดูหนังนำเสนอมาแล้วส่อกลิ่นโฮโมอิโรติกคลุ้งจอไปหมด เนื่องจากว่าเคมีของนักแสดงชายทั้งสองคนดันเข้ากันแบบประหลาด ยิ่งแววตาโหยไห้ของฝ่ายญี่ปุ่นนั่นยิ่งสร้างความรู้สึกตะหงิดๆว่าสุทธิๆแล้ว เดอะเบิร์ดนั้นแอบชอบในความไม่ยอมปราชัยของหลุยส์ หรือว่าคิดเป็นอื่นไกลไปกว่านั้นเราก็ไม่อาจจะรู้ได้เหมือนกัน แทบแค่รู้สึกได้ว่ากำแพงนั้นส่งกลิ่นแปลกๆอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


เพราะว่าถ้ามองในภาพรวมแล้วหนังใหม่อาจจักไม่ได้บันเทิง ใช่ไหมน่าจดจำในทุกภาคส่วน แต่ถือว่าเป็นผลงานที่เรามองเห็นความตั้งใจของ แองเจลิน่า โจลี่ ในการถ่ายทอดเรื่องราวของหลุยส์ แซมเปอรินี่ได้ไม่เลวทีเดียวครับ

ให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

class=

ที่มา: http://movie.sanook.com/48181/

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สินน้ำใจ Oscars 2015 บำเหน็จนี้ ใครจงได้มา?

รางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?




เดินทางเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลหนังยอดเยี่ยมประจำปี 87th Academy Awards เหรอ Oscars 2015 รางวัลออสการ์ที่เตรียมมอบให้กับภาพยนตร์คุณภาพที่คู่ควรในสาขาต่างๆ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย

ขึ้นชื่อว่ารางวัลออสการ์ 2015 นั้นก็ยังคงอัดแน่นด้วยหนังคุณภาพที่ตรงตามเกณฑ์ด้วยกันมาตรฐาน ทั้ง 24 สาขารางวัล เพราะในปีนี้จอเงินตลกร้าย รวมดาราชั้นนำ กลายเป็นในความโดดเด่น Birdman กับ The Grand Budapest Hotel เข้าชิงมากที่สุดถึง 9 รางวัล

โดยจอเงินเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามก็มาแรงอย่างเรื่อง The Imitation Game เข้าชิงถึง 8 รางวัล ส่วนจอเงินม้ามืดอย่างเรื่อง American Sniper มีชื่อเข้าเข้าชิงถึง 6 รางวัล  ในขณะที่ภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการในปีนี้อย่างเรื่อง Boyhood ก็ได้กลายเป็นตัวเต็ง เข้าชิง 6 รางวัลเช่นเดียวกัน

แต่ว่าผู้ชนะในแต่ละสาขามีได้พ่างแค่หนึ่งเดียว นี่คือ การคาดการณ์ ผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 87 ซึ่งประมวลจากข้อมูลทางสถิติรางวัลกับรายได้ รวมทั้งคะแนนเสียงจากนักวิจารณ์หนังชั้นนำมาให้ได้ดูกัน




ซึ่งด้วยบรรดารางวัลที่เกี่ยวกับ การแสดง ของออสการ์ปีนี้ เป็นที่น่าเสียดาย ก็เพราะว่าหลายสาขาล้วนแต่มี ตัวเต็ง หรือไม่ ตัวเด่น ชนิดที่เตรียมตัวนอนมารับตุ๊กตาทอง แม้ไม่มีอะไรที่พลิกความคาดหมายพร้อมด้วยค้านสายตาคนดูหนังอย่างเราๆ

มาเริ่มทำต้นจาก รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่คงไม่ยอมรับไม่ได้ว่า Julianne Moore มีผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Still Alice กับบทบาทผู้หญิงกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากเทศกาลหนังต่างๆ พร้อมด้วยนี่อาจจะสิ้นสุดการรอคอยเกือบ 20 ปี หลังจากที่เธอเคยเข้าชิงออสการ์มาถึง 4 ครั้ง แต่ยังไม่เคยคว้าได้เลยสักตัวเลย

ในส่วนสาวคนอื่นๆ ที่ร่วมเข้าชิงในรางวัลนักแสดงนำหญิงนี้ แม้จะทำผลงานเข้าตากรรมการ แต่ก็ยังไม่มีใครโดดเด่นได้เท่ากับตัวเต็ง บทบาทของ Felicity Jones ในเรื่อง The Theory of Everything นั้นน่าประทับใจ และ ไม่ควรมองข้าม

ส่วน Reese Witherspoon ในเรื่อง Wild ยังคงสร้างงานแสดงดีๆ ได้สมกับมาตรฐานของ Marion Cotillard จากเรื่อง Two Days, One Night ติดโผเข้ามาอย่างเซอร์ไพรส์ กับก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอขึ้นแท่นเป็นขวัญใจกรรมการ ส่วน Rosamund Pike จากเรื่อง Gone Girl เธอคนนี้ก็ต้องจับตามอง

ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Julianne Moore | ส่วนตัวแปร: Felicity Jones | ส่วนม้ามืด: Reese Witherspoon




พร้อมกับมาดู รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม กันบ้าง สาขานี้ก็แทบจะไม่ต้องลุ้น เจ้าแม่ดาราทีวี Patricia Arquette น่าจักมาคว้ารางวัลออสการ์จากการเข้าชิงครั้งแรกไปได้อย่างสบาย จากการแสดงที่โดดเด่นในเรื่อง Boyhood

พร้อมกับคู่แข่งคนอื่นๆ ในสาขานี้แทบจักไม่น่ากลัวอย่าง Emma Stone จากเรื่อง Birdman กับ Keira Knightley จากหนังเข้าใหม่เรื่อง The Imitation Game ที่ได้รับเสียงชมจากนักวิจารณ์ Laura Dern จากเรื่อง Wild ก็ติดโผเข้ามาแบบงงๆ ส่วน Meryl Streep จากเรื่อง Into the Woods รายนี้เป็นขาประจำ เข้าชิงออสการ์แบบปีเว้นปี


ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Patricia Arquette | ส่วนตัวแปร: Keira Knightley | ส่วนม้ามืด: Laura Dern




พร้อมทั้งมาดูรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่มี ตัวเต็ง ลอยเด่นมาแต่ไกลอย่าง JK Simmons ที่โชว์ฝีมือการแสดงเข้าขั้นเทพในเรื่อง Whiplash ที่เดินสายกวาดรางวัลมาแทบจักทุกเวที กับนี่คงเป็นการคว้าตุ๊กตาทองตัวแรกในชีวิตการแสดงของเขา ที่น่าจักครอบครองมาได้เพราะว่าไร้ข้อกังขา

ในขณะที่ผู้เข้าชิงอีก 4 คน ก็ไม่น่าหวั่นเกรงสักเท่าไหร่อย่าง Edward Norton จากเรื่อง Birdman กับ Ethan Hawke จากเรื่อง Boyhood เพราะที่ 2 คนนี้บรรดานักวิจารณ์หนังคอยส่งเสียงเชียร์อยู่ไม่น้อย ส่วน Mark Ruffalo จากหนังเรื่อง Foxcatcher กับ Robert Duvall จากเรื่อง The Judge ด้วยกันน่าเสียดายที่พวกเขาแทบจะถูกลืม

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: J.K. Simmons | ส่วนตัวแปร: Edward Norton | ส่วนม้ามืด: Ethan Hawke



มาเพิ่มระดับความน่าตื่นเต้นกันน่อย เกี่ยวกับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประจำปีนี้คงเป็นสาขาการแสดงที่ได้ลุ้นกัน การชิงดีชิงเด่นระหว่าง หนุ่มดาวรุ่ง กับ ดารารุ่นใหญ่อย่าง Michael Keaton ที่โชว์ ปล่อยของโดนใจนักวิจารณ์ทั้งประเทศจากการแสดงใน Birdman ส่วน Eddie Redmayne จากเรื่อง The Theory of Everything ที่รับบทอัจฉริยะโลกจารึกอย่าง Stephen Hawking แบบตามสูตรออสการ์เป๊ะ แม้ว่าคะแนนของทั้งคู่จะสูสีกัน แต่ผู้ชนะมีปางแค่หนึ่งเดียว

และผู้เข้าชิงรางวัลนำชายคนอื่นๆ ก็น่าประทับใจ อย่าง Steve Carell ที่พลิกบทบาทแปลงโฉมโชว์ฝีมืออย่างเข้มข้นในเรื่อง Foxcatcher ก็ไม่ควรมองข้าม เช่นเดียวกับ Benedict Cumberbatch จากเรื่อง The Imitation Game ก็พอที่จักมีลุ้น ส่วนขวัญใจอเมริกาอย่าง Bradley Cooper จากหนังเป็นที่นิยมเรื่อง American Sniper ก็น่าจักกลายเป็นม้ามืดอยู่ในสาขารางวัลนี้

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: Eddie Redmayne | ส่วนตัวแปร: Michael Keaton | ส่วนม้ามืด: Bradley Cooper

พร้อมกับตามมาด้วยรางวัลเกี่ยวกับ บทหนัง ปีนี้พบว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูสีในสาขารางวัลนี้ อีกทั้งยังมีบทภาพยนตร์หลายเรื่องที่คาดว่าจักติดโผเข้าชิง แต่กลับไม่มีชื่ออย่างน่าประหลาดใจ เช่น เรื่อง  Gone Girl, เรื่อง Wild หรือไม่ก็ เรื่อง Still Alice เป็นต้น




เพราะว่ารางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม แม้จักมีชื่อหนังหลายๆ หลุดโผไป แสดงให้เห็นว่าสาขารางวัลนี้ค่อนข้าง สายแข็ง เพราะเฉพาะงานดัดแปลงจากหนังสืออัตชีวประวัติกลางสมรภูมิรบอย่างเรื่อง American Sniper ได้ภาษีดีขึ้นมาทันที ที่กลายเป็นเป็นที่นิยมถล่มทลายตั้งแต่ปีใหม่ ส่วนหนังอินดี้อย่างเรื่อง Wishlash ดัดแปลงมาจากหนังสั้นชื่อเดียวกัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่สร้างสรรค์ได้อย่างมีชั้นเชิง

ในส่วนผู้เข้าชิงเรื่องอื่นๆ งานดัดแปลงจากหนังสือของเรื่อง The Imitation Game ก็ไม่ควรมองข้าง เช่นเดียวกับเรื่อง The Theory of Everything ความเป็นมาของอัจฉริยะเรื่อง Stephen Hawking  ที่ตีความออกมาได้อย่างประทับใจ ขณะที่เรื่อง Inherent Vice กลายเป็นตัวเร่ำลือกที่ติดโผเข้ามาแบบเซอร์ไพร์ส

เพื่อผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: Wishlash เพราะ Damien Chazelle | ส่วนตัวแปร: The Imitation Game เพราะว่า Graham Moore | ส่วนม้ามืด: American Sniper เพราะว่า Jason Hall


รางวัลยังไม่หมดแค่นี้นะ เดี๋ยวมาต่อกันพรุ่งนี้นะครับ ไม่ใช่หรือใครที่ขี้เกียจรอ เข้าไปอ่านได้เลยครับที่นี่ http://movie.sanook.com/47649/

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ข้อความย่อยวิจารณ์หนังประเด็น The Imitation Game,Fifty Shades of Grey

บทวิจารณ์หนังเรื่อง The Imitation Game




ซึ่งในตัวหนังกับชีวิตแน่นอนของ อลัน ทัวริ่ง เขาอาจจักต้องคอยปกปิดความเป็น เกย์ ของตัวเองเอาไว้จวบจนวันตายของเขา มิหนำซ้ำในช่วงเวลาดังกล่าวแล้วการเป็นบุคคลที่รักในเพศเดียวกันนั้นยังจัดเป็นเรื่องผิดกฎหมายพร้อมทั้งมีบทลงโทษของการเป็นเช่นนั้นอีกต่างหาก

เพราะว่าที่ อลัน ทัวริ่ง นั้นอาจจะเป็นแค่นักคณิตศาสตร์คนหนึ่ง แต่จนถึงเขาฉายแววจนกระทั่งเขาได้เข้าร่วมกับคณะถอดรหัสลับอีนิกม่าอันเป็นรหัสที่เยอรมันใช้ส่งข่าวสารเรื่องการเคลื่อนทัพในเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 รหัสลับที่ว่ากันว่าถอดยากจนแทบไม่มีโอกาสจักถอดได้ แต่ว่าท้ายที่สุด อลัน ทัวริ่ง กับพวกของเขาก็สมรรถช่วยเหร่ำลือกองทัพของเหล่าสัมพันธมิตรให้กุมชัยชนะในสงครามพร้อมกับย่นระยะเวลาจุดสิ้นสุดของสงครามให้จบลงไวกว่าเดิมร่วม 2 ปี

กับการที่ได้สวมบทเป็นอลัน ทัวริ่งของเบเนดิกซ์ คัมเบอร์แบชนั้นเรียกได้ว่าเขาอาจจะทำให้ตัวละครที่เขาสวมบทบาทเต็มไปด้วยมิติมากมายไม่ว่าจะเป็นในฐานะของอัจฉริยะที่มีปัญหาเรื่องการเข้ากับผู้คนพร้อมกับการที่ เกย์หนุ่มที่ต้องแอบซ่อนความรู้สึกของตัวเอง รวมไปถึงปมในจิตใจยามเด็กด้วยกันการเลือเลื่องกจักแต่งงานบังหน้าเพื่อดึง โจน คลาร์ค หรือไม่ก็ เคียร่า ไนท์ลีย์ เอาไว้ในหมู่ถอดรหัสไว้ให้ได้นานที่สุด

เนื่องด้วยความน่าสนใจของตัวละครของ โจน คลาร์ค ก็เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่จำนนกับบทของอลัน เนื่องจากตัวละครนี้เป็นเพศหญิงแค่พ่างคนเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำในยุคคราวดังกล่าวผู้หญิงถูกจัดเป็นช้างเท้าหลังที่มีหน้าที่อยู่ในหมวดนักทะเบียนเลขานุการหรือว่าไม่ก็ในฐานะแม่บ้านแม่เรือน แต่ในฐานะของนักคิดนั้น โอกาสความเป็นได้ต่ำเตี้ยพอๆกับบุคคลรักร่วมเพศ แถมหน้าที่ที่เธอโดนตราหน้าก็มีแค่เท่าการแต่งงานเป็นภรรยาของชายอื่นเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไปในสังคม

โดยความสำเร็จของ อลัน ทัวริ่ง นั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวแทบจักไม่มีใครล่วงรู้เลย เนื่องจากมันเป็นปฏิบัติการลับทางทหาร พร้อมทั้งเวลาผ่านไปกว่า 60 ปีจนถึงทุกวันนี้สาเหตุการจากไปของอลัน ทัวริ่งก็ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับคำตอบอันแน่ชัด แนวคิดแรกก็คือเขาอาจจักฆ่าตัวตายจากการสูดสารไซยาไนด์เข้าไปเนื่องจากหดหู่กับการต้องรักษาอาการรักร่วมเพศด้วยการฉีดฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าร่างกาย แทนการจองจำในคุก แต่ในอีกแนวคิดหนึ่งคือเขาเสียชีวิตเหตุเพราะการสูดดมไซยาไนด์เข้าไปเพราะบังเอิญมากกว่า

แต่ว่าเรื่องที่น่าเศร้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าวความสำเร็จที่อลัน เป็นได้ช่วยเหละบือเหล่าทหารนับหมื่นนับแสนนายให้รอดพ้นจากความโหดร้ายของสงคราม แต่มีเหมือนไม่กี่คนที่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ความสำเร็จนั้นไม่ได้รับการป่าวประกาศหรือไม่ก็ยกย่อง ซ้ำร้ายสิ่งที่เขาเป็นตามธรรมชาติของเขายังถูกสังคมมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจนมันย้อนกลับมาแว้งกัดชีวิตของเขาอีก

กับอย่างไรก็ตามวันนี้ก็มีคนรู้จักเกย์หนุ่มที่เป็นคนไขรหัสอีนิกมานามว่า อลัน ทัวริ่ง แล้ว

ให้ 4.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

อ่าน 4 เรื่องสุดสยิวของเรื่อง Fifty Shades of Grey





เรื่องที่ 1.นั้นมาจากหนังสือเบสท์เซลล์เลอร์สู่ภาพบนจอเงิน

เกี่ยวกับเรื่อง Fifty Shades of Grey นั้นเป็นผลงานวรรณกรรมของ อี แอล เจมส์ หนังสือไตรภาคที่มียอดขายถล่มทลายกว่า 100 ล้านเล่มใน 52 ภาษาทั่วโลก ที่สำคัญมันทำให้บรรดานักอ่านล้วนสนใจว่านิยายเล่มนี้มีความพิเศษตรงไหนด้วยกันอะไรคือจุดขายของมัน กับแน่นอนที่มันฉาวขนาดนี้เพราะว่ามันเป็นนิยายที่พูดถึงเรื่องเซ็กส์แบบเจ็บๆ

เรื่องที่ 2.ความปรารถนารู้หมายเห็น

ในภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายเรื่องนี้ ที่ตกเป็นประเด็นการคาดเดาในวงกว้างพร้อมกับความสงสัยใคร่รู้ไร้ขอบเขต โดยที่เทรลเลอร์ของหนังเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีผู้คลิ๊กชมมากที่สุดทาง YouTube ปางปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านี้ในประเทศไทยได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่าตัวหนังจักเข้าฉายแบบเต็มๆไม่มีการตัดทอนใดๆออกแลกกับเรตที่ได้รับคือ ฉ 20+ นั่นคือต้องมีการตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าโรงหนัง

เรื่องที่ 3.ตัวของคริสเตียน เกรย์ หนุ่มนักธุรกิจรสนิยมเฉพาะทาง

ทางด้านของ เจมี ดอร์แนน ได้เสนอตัวรับบท คริสเตียน เกรย์ ที่เป็นนักแสดงชาวไอริช ผู้เป็นที่รู้จักจากการแสดงที่ได้รับรางวัลบาฟตา อวอร์ดของเขาในซีรีส์เรื่อง The Fall และซีรีส์ Once Upon a Time ได้ออดิชั่นบทบาทที่ใกล้เคียง

ด้วยกันดังที่บทโปรแกรมหนังหนังแน่ๆๆนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับจนกระทั่งเหฟุ้งเฟื่องผู้ออดิชั่นน้อยลง เขาจึงได้ทดลองเล่นเป็นคริสเตียนแน่ๆๆ ภายหลัง

โดยภายหลังการที่ได้บันทึกภาพที่มีแววแล้ว นักแสดงหนุ่มก็ได้คุยทางสไคป์กับเทย์เลอร์-จอห์นสัน ผู้กำกับและกลุ่มผู้อำนวยการสร้างได้นั่งคุยกับดอร์แนนเป็นเวลานานตามคำขอของเขา เราคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ใครก็ตามที่จะรับบทนี้จะต้องทุ่มเทตัวเองแบบสุดๆ แน่แท้ๆ บรูเน็ตติกล่าว พร้อมทั้งถ้าจะมีความไม่มั่นใจ เกิดขึ้น มันก็จักกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการถ่ายทำ พร้อมด้วยก็อาจจะเป็นปัญหาในหนังใหม่เรื่องอื่นๆ ด้วย

เรื่องที่ 4.เรื่องของ อนาสตาเซีย สตีล ทาสรักสาว

สำหรับผู้มารับบทบาทนี้ก็คือ ดาโกต้า จอห์นสัน เธอสนใจบทอนาสตาเซียก่อนโปรเจ็คนี้จะเป็นรูปเป็นร่างด้วยซ้ำไป เธอแสดงความคิดหลังจากการอ่านนิยายว่า ฉันรู้สึกว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก กับหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ จนเซ็กส์ในหนังเข้าใหม่สือเรื่องนี้ ที่ถูกอธิบายอย่างโจ่งแจ้งและชัดเจน เป็นอะไรที่อิสระเสรีด้วยคนทั่วไปค่ะ

พร้อมกับผู้กำกับการแสดงหนังของจอห์นสัน ได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางเอกของเธอเหมาะกับบทนี้ว่า ฉันรู้ตั้งแต่แรกที่เราได้พบดาโกต้าแล้วว่าเราพบแอนัสเตเซียของเราแล้ว เธอแสดงถึงสมดุลที่เพอร์เฟ็กต์ระหว่างความเปราะบาง ความแสบซ่า ความงดงามกับความกล้าหาญ ดาโกต้าเข้ามาแข่งขันบทตั้งแต่ตอนแรกๆ มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ฉันรู้ว่าบทนี้เป็นของเธอ ดาโกต้า เธอมีไหวพริบ เสน่ห์พร้อมด้วยความเฉลียฉลาดของแอนาพร้อมกับเธอก็เนรมิตชีวิตให้บทนี้ได้อย่างที่ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าจักมีใครทำได้อีก





วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Marvel จัดฉุด spierman เข้าไปผสานเข้ากับ Avengers,HUNGER PART 2

ล่าสุด!! สาวกสไปเดอร์แมน เตรียมเฮ! 

หลังมาร์เวล ได้สิทธิ์ดึงตัวละครกลับมาแจมในสงครามจักรวาล




ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุดในรอบหลายๆปีกันเลยก็ว่าได้ ก็เพราะว่าโอกาสนี้ทางสตูดิโอมาร์เวลพร้อมทั้งโซนี่ พิกเจอร์ส นั้นรอบรู้หาข้อตกลงร่วมกัน รวมไปถึงส่วนแบ่งเรื่องเงินเป็นที่ลงตัว แล้วว่าระยะนี้ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนนั้นจะได้เข้ามาร่วมพวกกับ The Avengers ได้อย่างแน่นอน พร้อมทั้งที่สำคัญคือการได้ร่วมแจมกับคณะ อเวนเจอร์ นี้จักมีการเฟ้นหาไอ้แมงมุมตัวใหม่ด้วย




เพราะว่าที่ทาง แอนดรูวส์ การ์ฟิลด์ ไอ้แมงมุมจากเรื่อง The Amazing Spiderman ก็ได้ออกมาตอบเช่นกันว่าเขาจักไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังในการรวมพวก The Avengers แต่ว่าที่แน่ๆคือ ทางมาร์เวลเองก็มีแผนการที่จักให้ไอ้แมงมุมได้ไปปรากฏตัวอยู่ใน Captain America: Civil War แบบพอหอมปากหอมคอด้วยเช่นกัน




แค่แต่ว่าการประกาศข่าวที่น่ายินดีนี้ก็มีข่าวร้ายเช่นกัน ปางโปรเจ็คหนังที่รวมดาวร้ายของตัวละครคู่อริของสไปเดอร์แมนอย่าง Sinister Six ที่มีกำหนดการเข้าฉายในปี 2016 ก็ถูกพับเก็บเข้ากรุไปพร้อมด้วยมีทีท่าว่าอาจจะไม่ได้สร้างในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

กับอย่างไรก็ตามข้อตกลงใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่าง เควิน ไฟกี ของมาร์เวล สตูดิโอ ด้วยกัน เอมี พาสคาล ซึ่งลาออกจากตำแหน่งประธานร่วมของโซนี พิกเจอร์สนั้น ที่ทั้งสองสตูดิโอจักร่วมมือกันสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ให้กับซูเปอร์ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมน

ซึ่งความพิเศษ ที่มียิ่งกว่านั้นก็คือ การที่อาจจะหาโอกาสพิเศษให้ตัวละครจากจักรวาลมาร์เวลได้มีโอกาสมาโผล่อยู่ในเรื่องราวของหนังเรื่องสไปเดอร์แมนด้วย




และที่แน่นอนว่าโปรแกรมหนังในเรื่อง The Avengers Age of Ultron นั้นคงจะยังไม่มีสไปเดอร์แมนโผล่หน้ามา เพราะว่าได้ปิดกล้องไปแล้วแถมหนังก็จ่อคิวเข้าฉายแล้วเรียบร้อย แต่ว่าในตอน Avengers: Infinity War – Part 1 เขานั้นก็น่าจักได้ออกมาร่วมกรุ๊ปกับบรรดาฮีโร่คนอื่นๆอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นการได้ร่วมกรุ๊ปของฮีโร่นักไต่เข้ากับจักรวาลมาร์เวลครั้งนี้ทำให้สตูดิโอต้องเลื่อนวันฉายของซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ตามไปด้วยดังถัดจากนี้


  1. เรื่อง Thor: Ragnarok นั้นเลื่อนวันฉายใหม่ไปเป็น 3 พฤศจิกายน 2017
  2. เรื่อง Black Panther นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 6 กรกฎาคม 2018
  3. เรื่อง Captain Marvel นั้นเลื่อนตามไปเป็น 2 พฤศจิกายน 2018
  4. เรื่อง Inhumans นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 12 กรกฎาคม 2019



ภาคปิดที่บังตา HUNGER PART 2 อย่างยิ่งใหญ่

บนจอ IMAX กับหนังภาคแยก




ซึ่งหลังจากที่โดนแฟนหนังทั่วโลกโอดโอยว่าทำไมหนังภาคแรกของ The Hunger Games: Mockingjay PART 1 ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าฉายบนจอ IMAX แต่ด้วยภาคที่สองที่มีคิวเข้าฉายในช่วงกลางปีนี้ได้ข้อสรุปจากสตูดิโออย่างไลออนเกสต์แล้ว่าในภาคนี้จักได้ฉายบนจอใหญ่ยักษ์อย่างแน่นอน

แถมด้วยตัวผู้กำกับหนังอย่าง ฟรานซิส ลอวร์เรนซ์ได้คอนเฟิร์มแล้วเวยว่าหนังภาคนี้จักกลายเป็นแบบ IMAX 3D ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าจักเป็นการปิดม่านสงครามแห่งพาเน็มอย่างยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว

ซึ่งถึงแม้ว่าตอนหนัง PART1 จะไม่ได้ดูเป็นเวอร์ชั่น 3D แต่เพราะด้วยประเทศจีนกลับได้สิทธิพิเศษได้ดูเป็นเวอร์ชั่นสามมิติ ซึ่งตัวผู้กำกับฟรานซิส ลอว์เรนซ์พอใจกับงานภาพที่ถูกดัดแปลงเป็นสามมิติด้วย

แต่ว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหนังภาคที่กำลังจักเข้าฉายนี้อาจจะไม่ใช่ภาคสุดท้ายของแฟรนชายส์นี้เท่าที่โจน เฟลเทเมอร์ ที่เป็นซีอีโอของ ค่ายไลออนเกสต์ ได้เปิดเล่าว่า ในอนาคตอาจจักมีการคลอดโปรเจ็คหนังภาคแยกออกมาอีก ซึ่งระยะนี้เรากำลังพัฒนาและคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาคก่อนหน้าไม่ใช่หรือภาคต่อภายหลังหนัง Mockingjay PART 2 จบลง โจน เฟลเทเมอร์กล่าวไว่

กับจากสถานการณ์ กับ โอกาสที่มีความเป็นไปได้มากกว่าคือการพัฒนาหนังภาคพรีเควนซ์เหรอภาคก่อนหน้าออกมา ซึ่งแน่นอนว่าตัวหนังอาจจะมีการพูดถึง เกมล่าชีวิต ในครั้งก่อนหน้าหนังภาคแรกซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าหนังอาจจักโฟกัสไปที่ตัวละครฟินิค(แซม คาฟลิน) เคยเป็นผู้ชนะในเกมครั้งก่อนหน้า

ซึ่งโอกาสที่จักพัฒนาหนังภาคต่อออกมานั้นก็น่ากังขาอยู่ว่าเรื่องราวในพาเน็มนั้นจักมีอะไรให้พูดถึงอีกด้วยเหตุที่เรื่องการปฏิวัติของพาเน็มมันจบลงอย่างสมบูรณ์แน่นอนแล้วในภาคที่ 3 นี้ เหตุเพราะแฟรนชายส์ Hunger Games นั้นแตกต่างจากแฟรนชายส์อย่าง Harry Potter ยังพาผู้ชมไปเปิดโลกเวทมนตร์ในมิติต่างๆได้อีกมากหลายแยะมากมาย

เอาน่ะ!! อย่างไรก็ตามเหตุผลของความพยายามจะพัฒนาภาคอื่นๆของเรื่อง Hunger Games ออกมาอีกก็เพราะหนังเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสตูดิโอไลออนเกสต์ซึ่งทำกำไรให้อย่างมหาศาล พร้อมด้วยถึงแม้ว่า แฟรนชายส์ของ Divergent จะทำกำไรให้สตูดิโอเช่นกันแต่มันก็ยังห่างไกลคำว่ามหาศาลแบบ Hunger Games





วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

Dreamworks กำลังพลต่ำ! คนดูแอนิเมชั่นน้อย โล๊ะโปรเจคเหลือหลอ 2 กรณีต่อปี

ค่าย Dreamworks กำลังแย่! คนดูแอนิเมชั่นน้อย โล๊ะโปรเจคเหเล่าลือ 2 เรื่องต่อปี




ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้ ชื่อว่าเป็นสตูดิโอผลิตจอเงินหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังของโลก แถมปีที่เปลี่ยนมาก็ทำรายได้จากจอเงินเรื่อง How to Train Your Dragon 2 ไปได้ไม่น้อย

แต่ว่าทาง Dreamworks ก็กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ทางการเงินของบริษัทอยู่เหมือนกัน เนื่องจากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมานี้รายได้จากจอเงินแอนิเมชั่นของ Dreamworks นั้นทำยอดได้ลดลงเรื่อยๆ

พร้อมด้วยอันเนื่องมาจากผู้ชมหนังการ์ตูนแอนเมชั่นลดน้อยลง อีกทั้งยังเจอภาพยนตร์แอนิเมชั่นของคู่แข่งอย่าง Frozen ของดิสนี่ย์แย่งซีนไปด้วย




พร้อมด้วยเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ทาง Dreamworks จึงตัดสินใจลดขนาดของบริษัทลง ด้วยการเลิกจ้างพนักงานกว่า 500 ตำแหน่ง พร้อมกับลดจำนวนโปรเจคหนังแอนิเมชั่นที่ทำฉายในแต่ละปี

จากแต่ก่อนหนังเข้าใหม่ปีละ 3 เรื่อง เหฟุ้งเฟื่องแค่ปีละ 2 เรื่องเท่านั้น ก็เพราะว่าจอเงินแอนิเมชั่นแต่ละเรื่องนั้น ทาง Dreamworks ใช้เงินลงทุนสร้างค่อนข้างมาก

แต่ว่ายอดรายได้จาก Box Office น่าผิดหวัง โดยเฉพาะเรื่อง Shrek พร้อมด้วย Madagascar ที่ทำยอดได้น้อยลง มีแทบ How to Train Your Dragon 2 เท่านั้นที่พอทำกำไรให้บริษัทได้

และในช่วงที่ทาง Dreamworks กำลังประสบปัญต่างว่าารเงินนี้ ก็มีบริษัทอื่นยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการหนังใหม่ อย่างเช่น SoftBank หรือ Hasbro เป็นเงิน 3,4 พันล้าน US Dollars




กับสิ่งที่ Jeffrey Katzenberg ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท DreamWorks Animation เปิดปูดว่าการลดจำนวนหนังที่จักทำออกมานั้นเป็นหนทางหนึ่ง ที่จักช่วยแก้ปัญต่างว่าารเงินของบริษัทได้ โดยการทำจอเงินออกมาแค่ 2 เรื่องต่อปีก็พอ

แต่ว่า 2 เรื่องนั้นต้องเป็นจอเงินคุณภาพ ที่ทำรายได้สูงในรอบหนังของ Box Office คือทำออกมาน้อยลง แต่เน้นคุณภาพเพื่อให้ทำรายได้ที่ดีกว่า เพื่อความอยู่รอด


กับทั้งนี้ตัวอย่างหนังใหม่ ทันทีที่ตอนปี 2012 ทาง DreamWorks ก็เคยประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 350 คนไปแล้ว แต่ตอนนั้นผังงานของทาง DreamWorks ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือจักทำจอเงินแอนิมเชั่นภาคต่อออกมาปีละ 2 เรื่อง

และได้ทำเรื่องใหม่ออกมาปีละเรื่อง รวมเป็น 3 เรื่องต่อปี ซึ่งทำให้บริษัทขาดทุนไปไม่น้อย พอมาคราวนี้ปลดไปอีก 500 คน พร้อมกับลดโปรเจคเหละบือแค่ 2 เรื่องต่อปีแล้ว จักช่วยให้ทาง DreamWorks อยู่รอดได้จริงๆหรือไม่ก็ไม่




แต่ว่าโอกาสนี้โปรแกรมหนังหนังแอนิเมชั่นจาก DreamWorks ที่กำลังสร้างยังมีอยู่มาก คือ

  1. โทร์ล
  2. สำนักงานปฏิบัติการโลกหน้า
  3. ละครเพลงที่มุมไบ
  4. กังฟูแพนด้า 3 
  5. How to Train Your Dragon 3 


แต่ว่าหลังจากนี้จักเริ่มมีงานสร้างน้อยลงแล้ว

ที่มา: http://movie.sanook.com/46709/

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

หนัง: นี่ถือเอาว่า 5 จอเงินฟอร์มยักษ์ พล็อตใหม่ ที่น่าจับตามองณศักราช 2015

นี่คือ 5 หนังฟอร์มยักษ์ พล็อตใหม่ ที่น่าจับตาแห่งปี 2015




เรื่องแรก Chappie





นับว่าเป็นผลงานตัวอย่างหนังใหม่เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ นีลล์ บล็อมแคมป์ ที่ได้สร้างผลงานหนังสัตว์ประหลาดเรื่องเยี่ยมอย่าง District 9 พร้อมกับหนหนังเรียกร้องมนุษยธรรมอย่าง Elysium มาแล้ว

แต่ทว่า Chappie จะแจ้งเล่าเรื่องราวของแชปปี้หุ่นยนต์ที่เกิดมามีความคิดอ่านไม่ต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่ง ทว่าโชคเล่นตลกทำให้มันโดนอาชญากรจับตัวไปพร้อมกับกลายเป็นสมาชิกที่ไม่สมประกอบ แต่ยิ่งเติบโตขึ้นแชปปี้กลับฉายแววบางอย่างออกมา



เรื่องที่สอง Tomorrowland




นี่เป็นหนังมาใหม่ผลงานการกำกับของ แบรด เบิร์ด ซึ่งได้ทะลุหนังบล็อกบัสเตอร์มาจาก Mission Impossible 4 ที่จะสนทนาเล่าเรื่องราวของ เด็กสาวฮิวจ์ ลอว์รี่ เด็กหญิงที่บังเอิญได้พบกับเข็มกลัดวิเศษโดยบังเอิญทำให้เธอเดินทางไปยังแดนมหัศจรรย์อย่างทูมอโรว์แลนด์ได้

เพราะว่าที่เธอไม่รู้เลยว่าในโลกที่สวยงามนั้นมีอันตรายพร้อมกับความลับอีกมากมายซ่อนอยู่ หนังได้นางเอกบริทท์ โรเบิร์ทสัน แสดงร่วมกับจอร์จ คลูนีย์



เรื่องที่สาม Inside Out




โปรแกรมหนังซึ่งการได้กลับมาของพิกซาร์ซึ่งครั้งนี้จะกลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้งไม่ใช่หรือไม่หลังจากช่วงหลังๆ หนังของค่ายนี้กลับซบเซาในเรื่องของเสียงวิจารณ์พอสมควร

ตัวหนังเล่าเรื่องของ ไรลีย์ ที่เป็นเด็กหญิงขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลาง คราวพ่อของเธอต้องเริ่มทำงานใหม่ในซาน ฟรานซิสโก เช่นเดียวกับเราทุกคน ไรลีย์ถูกชักนำด้วยอารมณ์ต่างๆ ของเธอ

  1. ความสุข เหรอ เอมี่ โพเลอร์
  2. ความกลัว หรือไม่ก็ บิล เฮเดอร์
  3. ความโกรธ หรือ ลิววิส แบล็ค
  4. ความน่ารังเกียจ หรือไม่ก็ มินดี้ คาร์ลลิ่ง 
  5. ความเศร้า หรือไม่ฟิลลิส สมิธ

ซึ่งอารมณ์ทั้งหมดจึงต้องช่วยให้เธอข้ามชีวิตในแต่ละวันไปได้ นี่เป็นผลงานของพีท ด็อกเตอร์เจ้าของแอนิเมชั่นสุดประทับใจอย่าง


เรื่องที่สี่ Crimson Peak




เพราะหนังสยองขวัญแฟนตาซี ที่เล่าเรื่องราวของ อีดิธ ครัชชิง เธอเป็นนักเขียนสาว ที่ต้องพบกับความน่ากลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวสามี ด้วยกันเบื้องหลังตัวตนสุดลี้ลับ ที่เธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนตัวหนังจักเน้นความน่ากลัวในคฤหาสน์เก่าๆ

อีกทั้งยังได้ดารามากฝีมืออาทิ
เจสสิกา แชสเทน
ทอม ฮิดเดิลสตัน
จิม เบรเวอร์
มีอา วาซิโควสกา
ชาลี ฮันแนม

พร้อมทั้งนี่เป็นผลงานการกำกับของ กิลเลอร์โม เดล โตโรจากเรื่อง Pacific Rim



พร้อมกับเรื่องสุดท้าย Midnight Special




นี่เป็นรอบหนังแนวไซไฟ - ดราม่า ที่เผยเล่าการเดินทางของคู่พ่อลูกที่ต้องหลบหนีการตามล่า จนถึงพ่อพบว่าในอดีตครั้นเมื่อเขายังเด็กนั้นตนมีพลังพิเศษด้วยกันมันยังหลับใหลอยู่ในตัว เป็นผลงานการกำกับของเจฟฟ์ นิโคลที่ทำหนังดาร์คๆ เกี่ยวกับอารมณ์มนุษย์อย่าง Mud พร้อมด้วย Take Shelter ตัวหนังจักได้นักแสดงอย่าง

  1. โจเอล เอ็กเกอร์ตัน
  2. แซม เชฟเพิร์ด
  3. คริสเทน ดัสน์


มาร่วมแสดงด้วย